โปรดติดต่อเราที่ somkiat2334@gmail.com หากคุณไม่พบคำตอบในสิ่งที่คุณสงสัย
มูลนิธิสตาร์สะเต็มส์เพื่อสังคมสันติสุขยั่งยืน คือผู้ที่ช่วยแนะนำให้ความรู้นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS เมื่อคุณนำไปประยุกต์ใช้ตั้งเป้าหมายในชีวิตและพัฒนาทักษะในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นทั้งในเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว หรือเรื่องการงานอาชีพ ได้ด้วยตัวของคุณเอง พึ่งพาตนเองได้ และ เมื่อเข้มแข็ง ดีงามแล้ว มอบความดีงามสู่สังคมรอบข้าง นี่คือคน STAR STEMS ที่มูลนิธิสตาร์สะเต็มส์ฯ ต้องการให้มีขึ้นทั่วประเทศไทย
คุณสามารถติดต่อ มูลนิธิสตาร์สะเต็มส์เพื่อสังคมสันติสุขยั่งยืน ผ่านแบบฟอร์มติดต่อในเว็บไซต์ หรือทาง somkiat2334@gmail.com ครับ
การทำงานกับ มูลนิธิสตาร์สะเต็มส์เพื่อสังคมสันติสุขยั่งยืน จะช่วยให้คุณพัฒนาคุณภาพความคิดให้สูงขึ้น แล้วใช้ความคิดที่ดี มีคุณภาพ มาออกแบบสร้างแผนการพัฒนาร่างกาย จิตใจและอาชีพการงานของตนเองที่ชัดเจน ทำได้จริง จนเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขง่าย ทั้งกายและใจ เป็นคนดีที่สังคมต้องการได้ตามศักยภาพของตน เมื่อท่าเข้มแข็งแล้ว มาร่วมงานกันช่วยเหลือคนอื่นต่อ เพราะงานที่ทำส่วนใหญ่เป็นงานบริการวิชาการ งานอบรม ท่านก็จะได้ประสบการณ์ ได้ร่วมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปกับการประยุกต์ใช้แก้ไขสถานการณ์ของผู้เข้ารับการอบรม หรือผู้ที่ต้องการนำ STAR STEMS ไปใช้แก้ไขสถานการณ์จริงของตัวเอง
STEM education นั้นจะบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรม (Engineering) และ คณิตศาสตร์ (Matheematics) เข้าด้วยกันในการสร้างสรรค์สินค้าผลิตภัณฑ์ออกมา แต่ STAR STEMS จะเป็นกระบวนการคิดหาวิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของผู้นำไปใช้หรือของกลุ่มคนก็ได้ โดยบูรณาการศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้เท่าที่จำเป็นในการแก้ไขสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งจะมีขอบเขตที่กว้างกว่า แต่หากจะใช้ STAR STEMS ในการสร้างสรรค์สินค้าผลิตภัณฑ์ออกมา ก็ถือว่าเป็นสถานการณ์หนึ่ง ก็ยังได้อยู่เช่นกัน เพียงแต่ว่านอกจากจะดึงเอา STEM มาใช้แล้ว ยังมีการดึงเอาภูมิปัญญาไทย ทดสอบและประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรม และความเหมาะสมกับภูมิสังคม เข้ามาด้วย ซึ่งจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม นำไปสู่การยอมรับและเกิดความยั่งยืน
กระบวนการคิด STAR STEMS จะช่วยขจัดความไม่รู้ ความไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ป้องกันการเข้าใจผิด คิดไปเอง แต่จะเพิ่มการร่วมกันคิด เมื่อเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ร่วมสังคมเดียวกัน ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น รับรู้มุมมองที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งได้ร่วมกันหาวิธีการแก้ไขสถานการณ์ นับเป็นกระบวนการสร้างความรู้จักกัน สร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคมนั้นโดยตรง
ท่านสามารถจะประยุกต์ใช้กระบวนการของนวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ในการแก้ไขสถานการณ์ได้ทุกสถานการณ์ ทั้งสถานการณ์ส่วนตัว สถานการณ์ในครอบครัว สถานการณ์ในที่ทำงาน หรือสถถานการณ์ในระดับใดก็ได้ เพียงแต่ว่าท่านจะเกี่ยวข้องในระดับใด หากท่านเป็นผู้บริหารหน่วยงาน ท่านก็สามารถนำกระบวนการนวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ไปใช้ในภารกิจต่างๆ ของหน่วยงาน ก็ได้
ท่านสามารถจะประยุกต์ใช้กระบวนการคิด STAR STEMS ในการแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับอีกฝ่ายเป็นเช่นไร หากเขาเปิดใจรับ ท่านก็นำทำไปและแนะนำด้วยว่าเพราะอะไรถึงทำขั้นตอนนี้ แต่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่เปิดใจที่จะเรียนรู้ไปด้วย ท่านจะต้องเป็นผู้นำในการใช้เอง ชวนทำไปทีละขั้นตอนโดยที่ไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายรู้ว่าเป็นขั้นตอนอะไร ทำจนครบถ้วนได้วิธีการแก้ไขสถานการณ์ เรียกว่าเป็นการใช้ฝ่ายเดียว ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์ต่อท่านเองและผู้อื่นได้เช่นกัน
ท่านสามารถจะประยุกต์ใช้กระบวนการคิด STAR STEMS ในการแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เลย แม้ว่าจะรู้แบบผิวเผินก็ตาม ท่านสามารถประยุกต์ใช้ไปแบบเปิดเอกสารดูไป เรียนรู้ STAR STEMS ไปด้วยก็ได้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงได้เลย อาจจะเริ่มจาก 7 คำถามตามแนว STAR STEMS ดังนี้ 1) เกิดอะไรขึ้น 2) เราต้องการอะไรกับเรื่องนี้ 3) เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไร 4) คนอื่นเขาแก้ไขอย่างไร 5) แล้วเราจะใช้วิธีไหน 6) วิธีการที่จะใช้สมเหตุสมผลและทำให้ใครเดือดร้อนไหม 7) วิธีการที่จะทำสังคมยอมรับไหม
ความมายของคำว่ายั่งยืนในที่นี้นั้น หมายถึง มีความคงทน อยู่ได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลหนึ่งเท่าที่จะมีเหตุและปัจจัยมาสนับสนุนให้อยู่ได้ ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของสรรพสิ่งที่เกิดจากการปรุงแต่งประกอบกันขึ้นมา และยังเป็นไปตามกฎธรรมชาติอีกประการหนึ่ง คือ กฎไตรลักษณ์ ที่มีความไม่เที่ยงแท้ถาวร (อนิจจัง) อยู่ภายใต้ความกดดันที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง (ทุกขัง) และ ไม่มีใครจะสามารถทำให้เป็นไปได้ตามความต้องการ (อนัตตา) จะทำได้อย่างมาก ก็คือ เราแค่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำเหตุและปัจจัยให้พร้อมเพื่อหวังที่จะทำให้เกิดขึ้นตามที่คาดหวัง โดยสรุปก็คือ ความยั่งยืนนั้น ไม่ใช่ความคงทนถาวร ที่จะแปรเปลี่ยนไม่ได้ แต่หมายถึงความคงทนต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งที่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ขึ้นเท่านั้น
นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS นั้นเป็นกระบวนการสร้างปัญญาที่มุ่งแก้ปัญหาทางโลก เป็นการพัฒนาความสุขทางโลก ไม่สามารถจะนำไปเปรียนเทียบได้กับการได้มาซึ่งความสุขที่สูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ การเข้าถึงนิพพาน อันนำมาซึ่งความสุขที่เกิดจากความสงบ ซึ่งต้องใช้ภาวนามยปัญญา จึงจะไปถึงได้ แต่หากมองในอีกแง่มุมหนึ่งแล้ว การฝึกอบรมนวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ได้ใช้แนวทางการพัฒนาปัญญาตามแนวพุทธ อยู่บ้าง โดยใช้ตั้งแต่สุตตมยปัญญา คือ สอนให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม ต่อด้วย การชวนให้คิอ ในห้วงการฝึกแบบปิดจังหวะที่เป็นแนวบังคับให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดปัญญาจาการคิดตาม คือ จินตามยปัญญา และปิดท้ายด้วยการแยกกลุ่มฝึกปฏิบัติ ลงมือทำเองภายใต้การแนะนำจากวิทยากรเท่าที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นการเริ่มใช้แนวภาวนามยปัญญา นอกจากนั้น เมื่อผู้เข้ารับการอบรมนำไปประยุกต์ใช้เอง ฝึกใช้เอง ก็จะเข้าสู่แนวภาวนามยปัญญา อย่างเต็มที่ แต่จุดมุ่งหวังของนวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS นั้นคือการคิดรอบ คิดร่วม ของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง เป็นการมุ่งสู่การอยู่ร่วมกันเป็นสังคม อีกทั้งเป็นการดึงเอาธรรมะทางศาสนาที่ตนนับถือมาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ร่วมกัน จึงเป็นการมุ่งแก้ปัญหาทางโลกในเบื้องต้น มุ่งให้เกิดความสงบทางใจในเบื้องต้น เมื่อสังคมสงบสุขได้แล้ว ย่อมเอื้ออำนวยให้แต่ละบุคคลสามารถไปปฏิบัติธรรมตามความเชื่อทางศาสนาของตน ให้เข้าถึงความสุขทางใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นได้ ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะปฏิบัติธรรมได้ หากมีแต่ความขัดแย้ง แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น เกิดข้อพิพาท ทะเลาะเบาะแว้ง จนถึงขั้นทำร้ายกัน จนเกิดสงครามกันไปทั่วทุกหัวระแหง ดังนั้นนวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS จึงเป็นเพียงเครื่องมือพิเศษสำหรับการคิดรอบ คิดร่วม หล่อหลอมความเห็นต่าง ลดความขัดแย้งของผู้คนในสังคม ทำให้สังคมที่มีความ รู้ รัก สามัคคี ทุกคนมีสันติสุข กันทั่วหน้า เท่านั้นเอง
นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS นั้นมีจุดเด่นคิดรอบ คิดร่วม ดังนั้นจุดอ่อนหรือจุดด้อยที่ทำให้นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ใช้ไม่ได้ผลนั้น ก็คือ การ ปิดโอกาสในการคิดร่วมกัน อาจจะเกิดจากการปิดตัวเองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คิดอะไรก็ไม่บอก ถึงบอกก็ไม่เป็นข้อเท็จจริง หรือ อาจจะถูกปิดโอกาสโดยบางคนที่เป็นเผด็จการทางความคิด ไม่ยอมให้คนอื่นในกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นออกมาให้คนในกลุ่มได้รับทราบ ก็จะทำให้แต่ละคนอาจได้ใช้ STAR STEMS แต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งก็ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่
การใช้นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ให้กลุ่มคนสิบกลุ่มแก้ไขสถานการณ์เดียวกัน จะได้วิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้เนื่องจากในแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกที่มีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เมื่อได้แลกเปลี่ยนมุมมอง แนวความคิดร่วมกันตามกระบวนการ STAR STEMS แล้ว จึงควรที่จะได้ผลลัพธ์แก้ไขสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปเป็นสิบแบบ อาจจะมีบางส่วนที่เหมือนกัน บางส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แม้จะใช้กระบวนการ STAR STEMS อันเดียวกันก็ตาม ทั้งนี้ทุกวิธีการที่ได้นั้นเป็นผลผลิตของแต่ละกลุ่มที่จะได้ร่วมกันคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์จนได้ข้อยุติที่ในแต่ละกลุ่มมีความพอใจและเพ็นพ้องกันแล้วว่าวิธีการที่ได้นั้นในกลุ่มเห็นว่าดีที่สุด นั่นคือความสวยงามของ STAR STEMS ที่มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะทำให้คนในสังคมนั้นๆ แก้ไขสถานการณ์ร่วมด้วยกัน แม้ว่าวิธีการที่ได้และนำไปใช้อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นวิธีการที่พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น
การใช้นวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ให้กลุ่มคนสิบกลุ่มแก้ไขสถานการณ์เดียวกัน จะได้วิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ ตามที่ทราบกันแล้ว แต่หากนำวิธีการที่ได้สิบแบบมาเข้ากระบวนการ STAR STEMS ร่วมกันทั้งหมดอีกรอบหนึ่งย่อมจะได้วิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่ทั้งหมดยอมรับว่าดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น หากจะถามว่านวัตกรรมทางปัญญา STAR STEMS ดีกว่ากระบวนการอื่นอย่างไรนั้น ก็ต้องบอกว่า เป็นกระบวนการที่สามารถดึงเอาความคิดเห็นดีๆ ออกมาจากทุกคน นอกจากร่วมกันคิดแบบวิทยาศาสตร์ ผสมผสานความเป็นไทย บนฐานของคุณธรรม ที่เหมาะสมกับภูมิสังคมไทย และหากใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ที่ต้องใช้เวลานานใหนการแก้ไขแล้ว STAR STEMS Cycle จะให้ทางออกที่ดีที่สุดกว่ากระบวนการอื่น สมมติว่าให้กลุ่มเดียวทำ STAR STEMS Cycle 10 รอบ ในรอบที่ 10 ย่อมได้ผลการแก้ไขสถานการณ์ที่เข้าใกล้กับเป้าหมาย STAR มากกว่าในครั้งแรกแน่นอน นั่นคือเครื่องมือที่ประกันความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
We use cookies to analyze website traffic and optimize your website experience. By accepting our use of cookies, your data will be aggregated with all other user data.